เกี่ยวกับฉัน

วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ชื่อผลงาน การสร้างและพัฒนาแบบฝึก เพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษา เรื่อง การใช้ verb to be,

ชื่อผลงาน การสร้างและพัฒนาแบบฝึก เพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษา เรื่อง การใช้ verb to be,


verb to have ที่ส่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

โรงเรียน เทศบาล ๔ (วัดโพธาวาส) จังหวัดสุราษฎร์ธานี



ผู้วิจัย นางเพ็ญระพี แก้วบุดดี ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ

โรงเรียนเทศบาล ๔ (วัดโพธาวาส) จังหวัดสุราษฎร์ธานี

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ .1) การสร้างและพัฒนาแบบฝึก เพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษา เรื่อง การใช้ verb to be, verb to have ที่ส่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ คือ 85/85 .2) เพื่อศึกษาพัฒนาการของนักเรียนในการเรียนรู้จาก การสร้างและพัฒนาแบบฝึก เพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษา เรื่อง การใช้ verb to be, verb to have ที่ส่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 .3) เพื่อศึกษาความก้าวหน้าในการเรียนรู้จาก การสร้างและพัฒนาแบบฝึก เพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษา เรื่อง การใช้ verb to be, verb to have ที่ส่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ว่ามีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้นระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 .4) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อ การสร้างและพัฒนาแบบฝึก เพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษา เรื่อง การใช้ verb to be, verb to have ที่ส่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ตัวอย่างที่ใช้ในการดำเนินการครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนวิชาภาษาอังกฤษ ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2552 โรงเรียนเทศบาล ๔ (วัดโพธาวาส) ที่ได้มาโดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 77 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการ ประกอบด้วย 1.) แบบฝึก เพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษา เรื่อง การใช้ verb to be, verb to have ที่ส่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2.)แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 3.) แบบสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อ แบบฝึก เพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษา เรื่อง การใช้ verb to be, verb to have ที่ส่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ

การดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล ทำการเก็บรวบรวมข้อมูล 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนแรก การทดลองใช้ (Try out) กับกลุ่มเล็ก ขั้นตอนที่สอง การใช้จริงกับกลุ่มทดลอง มีการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ ข้อมูลจากแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ข้อมูลจากแบบสอบถามความคิดเห็นของกลุ่มทดลองเมื่อเรียนจบ แต่ละแบบฝึก ข้อมูลจากการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน และคะแนนจากการทำใบงาน

ผลการดำเนินการ พบว่า

1.) ผลการใช้ แบบฝึก เพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษา เรื่อง การใช้ verb to be, verb to have ที่ส่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3ของกลุ่มทดลอง ปรากฏว่า มีค่าเฉลี่ยของคะแนนทดสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

2.) ผลการการสร้างและพัฒนา แบบฝึก เพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษา เรื่อง การใช้ verb to be, verb to have ที่ส่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และนำไปใช้ในการเรียนการสอนกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นกลุ่มทดลอง พบว่า การสร้างและพัฒนาแบบฝึก เพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษา เรื่อง การใช้ verb to be, verb to have ที่ส่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 88.01/94.86 มีค่าสูงกว่าเกณฑ์สมมติฐาน 85/85 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานการวิจัย

3.) ผลการวัดความคิดเห็นของกลุ่มทดลองที่มีต่อ แบบฝึก เพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษา เรื่อง การใช้ verb to be, verb to have ที่ส่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่ากลุ่มทดลองมีความคิดเห็นต่อ แบบฝึก เพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษา เรื่อง การใช้ verb to be, verb to have ที่ส่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก

ไม่มีความคิดเห็น: